A Study of Guidelines for the Management of Health Tourism According to the Perceptions Behaviors of Stakeholders in Nakhornratchasima Province การศึกษาแนวทางการจัดการการท่องเที่ยวเชิงสุขภาพและพฤติกรรมการรับรู้ ของผู้ที่เกี่ยวข้องในจังหวัดนครราชสีมา

Main Article Content

Kittisak Klinmuenwai
Ratklao Eurvongkul

Abstract

บทคัดย่อ


         การศึกษาวิจัยนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อ (1) ศึกษาและวิเคราะห์องค์ประกอบการท่องเที่ยวเชิงสุขภาพ (2) ประเมินความต้องการเกี่ยวกับพฤติกรรมและการรับรู้การท่องเที่ยวเชิงสุขภาพ และ (3) เพื่อค้นหาศักยภาพและแนวทางการจัดการส่งเสริมพัฒนาการท่องเที่ยวเชิงสุขภาพตามพฤติกรรมและการรับรู้ของผู้เกี่ยวข้องในจังหวัดนครราชสีมา เป็นการวิจัยแบบผสมผสานวิธีโดยใช้เครื่องมือวิจัย คือ แบบสอบถามเก็บข้อมูลเชิงปริมาณโดยการเลือกเก็บข้อมูลแบบสะดวกกับกลุ่มตัวอย่างนักท่องเที่ยวชาวไทยที่มาเที่ยวในจังหวัดนครราชสีมา จำนวน 485 คน และแบบสัมภาษณ์เก็บข้อมูลเชิงคุณภาพโดยการเลือกเก็บข้อมูลแบบเจาะจง กับกลุ่มผู้เชี่ยวชาญในหน่วยงานภาครัฐ ภาคเอกชนที่เกี่ยวข้องด้านการท่องเที่ยว ผู้นำชุมชน นักวิชาการ ผู้ประกอบการ ปราชญ์ท้องถิ่น และนักท่องเที่ยวชาวไทย จำนวน 16 คน ผลการวิจัย พบว่า 1) โมเดลการวัดตัวแปร องค์ประกอบการท่องเที่ยวเชิงสุขภาพมีความสอดคล้องกลมกลืนกับข้อมูลเชิงประจักษ์ (χ2= 4.731, df = 3, p-value=0.192, GFI=0.997, AGFI=0.983, CFI=0.999, RMR=0.004, RMSEA=0.033) 2) ความต้องการจำเป็นเกี่ยวกับพฤติกรรม และการรับรู้การท่องเที่ยวเชิงสุขภาพ โดยการจัดลำดับความต้องการจำเป็นในปัจจุบันและที่ควรจะเป็นด้วยวิธี Priority Needs Index แบบปรับปรุง พบว่า องค์ประกอบที่ 3 ด้านกิจกรรมในแหล่งท่องเที่ยวมีความต้องการจำเป็นมากที่สุด 3) การวิเคราะห์ (SWOT) เพื่อค้นหาศักยภาพ จุดแข็ง จุดอ่อน โอกาส อุปสรรค ในการบริหารจัดการและหาแนวทางการส่งเสริมพัฒนาการท่องเที่ยวเชิงสุขภาพตามพฤติกรรมและการรับรู้ของผู้เกี่ยวข้องในจังหวัดนครราชสีมา  พบว่าจุดแข็งคือ สิ่งดึงดูดใจทางการท่องเที่ยว และแนวทางในการพัฒนาด้านการท่องเที่ยวเชิงสุขภาพดังนี้ ควรพัฒนาการเข้าถึงแหล่งท่องเที่ยว พัฒนาส่งเสริมกิจกรรมทางการท่องเที่ยวให้มีความหลากหลาย และพัฒนาสิ่งอำนวยความสะดวกต่าง ๆ ทางการท่องเที่ยวให้มีมาตรฐานและเพิ่มมากขึ้น


คำสำคัญ: การจัดการการท่องเที่ยว องค์ประกอบการท่องเที่ยว การท่องเที่ยวเชิงสุขภาพ พฤติกรรมการรับรู้


ABSTRACT


         This research aims to (1) study and analyze the components of wellness tourism, (2) evaluate the needs in terms of the behaviors and the perceptions in the wellness tourism, (3) search for potential in management and ways to promote and improve the wellness tourism according to the behaviors and the perceptions of people in Nakhon Ratchasima province.  This research is mixed methods research, a quantitative data collection method by using a convenient sampling with a group of 485 Thai tourists who visited Nakhon Ratchasima Province, and using a purposive sampling with a group of 16 people of specific respondents who were specialists in tourism from both government and private sectors, community leaders, academics, entrepreneurs, local philosophers and Thai tourists.  The study showed that 1) The variation measurement model of the wellness tourism’s components was consistent with the empirical data (χ2= 4.731, df = 3, p-value=0.192, GFI=0.997, AGFI=0.983, CFI=0.999, RMR=0.004, RMSEA=0.033) 2) By prioritizing the needs assessment, in accordance with the behaviors and the receptions in the wellness tourism, with the updated Priority Needs Index method, it revealed that the most essential need was the component No.3 which was the tourist activities at the tourist attractions. 3) By using SWOT analysis in order to search for potential, strengths, weaknesses, opportunities, and obstacles in wellness tourism management and development guidelines according to the behaviors and the perceptions of the concerned people in Nakhon Ratchasima Province, the strength of the tourism components were the attraction and guidelines to improve the wellness tourism, should develop access to tourist attractions, develop and promote diverse tourism activities and develop various tourism facilities to meet the higher standard.


Keywords: Tourism Management, Component of Tourism, Health Tourism, Perceptions Behaviors 


เอกสารอ้างอิง (References)


กรมการท่องเที่ยว. (2560). แผนยุทธศาสตร์การพัฒนาแหล่งท่องเที่ยวของประเทศไทย พ.ศ. 2560– 2564. กรุงเทพฯ: บริษัท พีดับบลิว ปริ้นติ้ง จำกัด


กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา. (2561). สถานการณ์การท่องเที่ยวปี 2561 และแนวโน้มถึงปี 2564. สืบค้นเมื่อ 8 กุมภาพันธ์ 2565 จาก https://www.mots.go.th/ewt_dl_link.php? nid=11273


กรุงเทพธุรกิจ. (2564). สุขภาพและคุณภาพชีวิต. สืบค้นเมื่อ 3 มีนาคม 2565 จาก https://www.bangkokbiznews.com/health/public-health/1031678


กลินท์ สารสิน. (2563). New Normal ท่องเที่ยวไทย ทำอย่างไรเมื่อต่างชาติไม่มากเท่าเดิม: Wellness Tourism คือจุดแข็งที่ประเทศไทยต้องผลักดันเพิ่ม. สืบค้นเมื่อ 7 ธันวาคม 2564 จาก https://workpointtoday.com/th-tmr-kalin/


การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย. (2564). ภาวะและสถานการณ์การท่องเที่ยวในอนาคต. สืบค้นเมื่อ 28 มกราคม 2565 จาก https://api.tat.or.th/upload/live/about_tat/8925/รายงานประจำปี_2564.pdf


เกศวลีณ์ รัตนดิลก ณ ภูเก็ต. (2562). การประเมินความพร้อมของแหล่งน้ำพุร้อน อำเภอคลองท่อม จังหวัดกระบี่ สู่การพัฒนาเป็นเมืองต้นแบบการท่องเที่ยวเชิงสุขภาพน้ำพุร้อน. (รายงานการวิจัย). สงขลา: มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์.


เขมลักษณ์ คุปคีตพันธ์ และปริญญา บรรจงมณี. (2563). แนวทางการพัฒนาองค์ประกอบการท่องเที่ยวเชิงสุขภาพของนักท่องเที่ยวชาวยุโรปในจังหวัดประจวบคีรีขันธ์. วารสารบัณฑิตศึกษา มหาวิทยาลัยราชฏวไลยอลงกรณ์ ในพระบรมราชูปถัมภ์, 14(1), 1-13.


ณัฏฐ์วรดี คณิตินสุทธิทอง และจินตนา เลิศสกุล. (2564). ความต้องการของตลาดและศักยภาพการรองรับการท่องเที่ยวเชิงสุขภาพของจังหวัดนครศรีธรรมราช. วารสารสังคมศาสตร์และมานุษยวิทยาเชิงพุทธ, 6(6), 77-93.


ทินวัฒน์ แสงศิลา และเขมณัฐ ภูกองไชย. (2563). แนวทางการบริหารจัดการแหล่งท่องเที่ยวหาดสวนหินบ้านดงคําโพธิ์ ตําบลปลาโหล อําเภอวาริชภูมิ จังหวัดสกลนคร. วารสารปัญญาปณิธาน, 5(1), 189-202.


เทิดชาย ช่วยบํารุง. (2552). บทบาทขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นกับการพัฒนาการท่องเที่ยวอย่างยั่งยืนบนฐานแนวคิดเศรษฐกิจพอเพียง. กรุงเทพฯ: สํานักพิมพ์คณะรัฐมนตรีและราชกิจจานุเบกษา.


นัทชา สองหลวง. (2561). แนวทางการวางแผนพัฒนาการท่องเที่ยวชุมชนเชิงสุขภาพจังหวัดขอนแก่น. รายงานการประชุม การประชุมวิชาการระดับชาติการท่องเที่ยวโรงแรมร่วมสมัย ครั้งที่ 5, 149-160. มหาสารคาม: มหาวิทยาลัยมหาสารคาม.


ปฏิมาศ เสริฐเลิศ. (2562). การจัดการการท่องเที่ยวเชิงสุขภาพทางวัฒนธรรม บ้านโนนน้ำเกลี้ยง อำเภอสหัสขันธ์ จังหวัดกาฬสินธุ์. (รายงานการวิจัย). มหาสารคาม: มหาวิทยาลัยราชภัฏมหาสารคาม.


ราณี อิสิชัยกุล. (2560). การท่องเที่ยวเชิงสุขภาพ. การจัดการการท่องเที่ยวเฉพาะทาง (Niche tourism management). นนทบุรี: มหาวิทยาลัยสุโขทัยธรรมาธิราช.


สารภี ชนะทัพ, เนตรนภา รักษายศ และนงลักษณ์ ผุดเผือก. (2564). การจัดการการท่องเที่ยวเชิงสุขภาพกรณีศึกษา น้ำพุร้อนท่าสะท้อน ตำบลท่าสะท้อน อำเภอพุนพิน จังหวัดสุราษฎร์ธานี. วารสารวิทยาการจัดการ มหาวิทยาลัยราชภัฏสุราษฎร์ธานี, 8(1). 61-79.


สำนักงานจังหวัดนครราชสีมา. (2564). แผนพัฒนาจังหวัดนครราชสีมา พ.ศ.2561 – 2565 ฉบับทบทวน. สืบค้นเมื่อ 7 มีนาคม 2565 จาก https://www2.nakhonratchasima.go.th/files/com_ebook_strategy/2020-06_aa31e9524baf536.pdf


สำนักงานท่องเที่ยวและกีฬา จังหวัดนครราชสีมา. (2565). การพัฒนาการท่องเที่ยวจังหวัด นครราชสีมาประจำปี พ.ศ.2565. สืบค้นเมื่อ 9 มกราคม 2565 จาก https://nakhonratchasima.mots.go.th/more_news.php?cid=52


สำนักพัฒนาแหล่งท่องเที่ยว, กรมการท่องเที่ยว. (2565). การบริหารจัดการแหล่งท่องเที่ยว. สืบค้นเมื่อ 7 ตุลาคม 2565 จาก https://www.dot.go.th/storage/ebooks/January2019/AlzAxoKlnGGUUEh9JE36.pdf


สุวิมล ว่องวาณิช. (2558). การวิจัยประเมินความต้องการจำเป็น. สำนักพิมพ์แห่งจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย.


อัจศรา ประเสริฐสิน. (2558). การประเมินความต้องการจําาเป็นในการพัฒนาคุณลักษณะอันพึงประสงค์ 8 ประการ ของนักเรียนระดับชั้นมัธยมศึกษา. วารสารบรรณศาสตร์ มศว, 8(2), 2558 56-68.


อารัญ บุญชัย และจินนา ตันศราวิพุธ. (2546). ท่องเที่ยวเชิงสุขภาพจุดขายใหม่ของการท่องเที่ยวไทย. วารสารเศรษฐกิจและสังคม, 40(4), 22-23.


Boga, T. C., & Weiermair, K. (2011). Branding new services in health tourism. Tourism Review, 66(½), pp. 90-160.


Buhalis, D. (2000). Marketing competitive destination in the future. Tourism Management. 21(1), 97-116.


Cheng, C. L., Lin, F. C., Chi, M. W., & Tso, J. C. (2018). Exploration of the Critical Factors of Spa Tourism in Taiwan. International Journal of Science, Technology and Society 6(2), 47-51.


Cochran, W.G. (1963). Sampling Techiques. New York: John Wiley & Sons. Inc.


Cooper C., & Boniface, B.G. (1998). Geography of travel and tourism. United Kingdom. Butterworth Heinemann.


Creswell, J., & Plano Clark, V. (2007). Designing and Conducting Mixed Methods Research. Sage.


Cronbach, L. J. (1984). Essential of Psychology and Education. New York: Mc–Graw Hill.


Diamantopoulos, A., & Signaw, A.D. (2000). Introducing LISREL: A Guide for the Uninitiated. Sage.


Gan, L. & Frederuck, J.R. (2011). Medical Tourism Facilitators: Patterns of Service Differentiation. Journal of Vacation marketing, 17(3), 1-19.


Global Wellness Institute. (2017). The Global Wellness Tourism Economy 2017. Retrieved April 9, 2021 from http://www.globalwellnesssummit.com.


Likert, R. (1932). A Technique foe Measurement of Attitude. Achieves of Psychology.


Pelasol, M., Tayoba, M., Mondero, E., Jugado, K., & Lahaylahay, C. (2012). Igcabugao: A Potential Tourist Destination in the Southern Part of Iloilo, Philippines. JPAIR Multidisciplinary Research, 8(1), 90-97.


Pike, S. D. (2008). Destination Marketing: an integrated marketing communication approach. Massachusetts United States: Butterworth-Heinemann. Burlington.


Western, T. (2008). Five A's of Toursim. Australia: Tourism Western Australia.

Downloads

Download data is not yet available.

Article Details

Section
บทความวิจัย (Research Article)