การศึกษาผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนวิชาประวัติศาสตร์สากลที่เรียนโดยการจัดการเรียนรู้ แบบการนำเสนอมโนทัศน์กว้างล่วงหน้า สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6 โรงเรียนปทุมวิไล อำเภอเมือง จังหวัดปทุมธานี
Study of the learning achievement in the subject of Universal History using the Advance Organizer Learning management presentation method for Matthayom 12 Students in PathumWilai School, Pathumthani province
Keywords:
ผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนการจัดการเรียนรู้แบบการนำเสนอมโนทัศน์กว้างล่วงหน้าความพึงพอใจ, Learning Achievement, Advance Organizer Model, SatisfactionAbstract
การวิจัยในครั้งนี้มีวัตถุประสงค์ในการวิจัยเพื่อ 1) ศึกษาผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนวิชาประวัติศาสตร์สากล ของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6 ที่ได้รับการจัดการเรียนรู้แบบการนำเสนอมโนทัศน์กว้างล่วงหน้ากับนักเรียนที่ได้รับการจัดการเรียนรู้แบบปกติ 2) ศึกษาความพึงพอใจของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6 ที่มีต่อการจัดการเรียนรู้แบบการนำเสนอมโนทัศน์กว้างล่วงหน้ากลุ่มตัวอย่างเป็นนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6 กำลังศึกษาอยู่ภาคเรียนที่ 1 ปีการศึกษา 2559 โรงเรียนปทุมวิไล จังหวัดปทุมธานี สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษาเขต 4 ซึ่งได้จากการสุ่มแบบกลุ่ม จำนวน 2 ห้องเรียน เป็นกลุ่มทดลอง และกลุ่มควบคุม จำนวนกลุ่มละ 40 คน เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัยประกอบด้วยแผนการจัดการเรียนรู้แบบการนำเสนอมโนทัศน์กว้างล่วงหน้าและแผนการจัดการเรียนรู้แบบปกติ แบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนวิชาประวัติศาสตร์สากล เรื่อง อารยธรรมโลกยุคโบราณ ที่มีค่าความเชื่อมั่นเท่ากับ 0.74 และแบบวัดความพึงพอใจของนักเรียนที่มีต่อการจัดการเรียนรู้แบบการการนำเสนอมโนทัศน์กว้างล่วงหน้า ที่มีค่าความเชื่อมั่นเท่ากับ 0.96 สถิติที่ใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูลได้แก่ ค่าเฉลี่ย ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน และการทดสอบค่าที สำหรับกลุ่มตัวอย่างที่เป็นอิสระจากกัน
ผลการวิจัยพบว่า 1) ผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนวิชาประวัติศาสตร์สากลของนักเรียนที่ได้รับการจัดการเรียนรู้แบบการนำเสนอมโนทัศน์กว้างล่วงหน้า สูงกว่านักเรียนที่ได้รับการจัดการเรียนรู้แบบปกติ อย่างมีนัยสำคัญที่ระดับ 0.05 2) ความพึงพอใจของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6 ที่มีต่อการจัดการเรียนรู้แบบการนำเสนอมโนทัศน์กว้างล่วงหน้าอยู่ในระดับมาก
The objectives of this research were to compare the learning achievement on universal history subject of 12th grade students taught using the advance organizer model and traditional approach as well as study the satisfaction of 12th grade students towards the advance organizer model. The samples were 80 grade 12Studentsdivided into two groups: 40 students in the experimental group and 40 students in the control group. They were studying in the first semester of academic year 2016 in PathumWilai School, Pathumthani province, under the secondary educational service area office 4. The instruments used in this study comprised of two series of lesson plans: using the advance organizer model and traditional approach, a learning achievement test of universal history subject with a reliability of 0.74 and a questionnaires with a reliability of 0.96 The statistics analyzed data were mean, standard deviation and t-test for independent samples. The results were as follows: 1) The learning achievement on universal history subject of grade 12 students who were taught using the advance organizer model was higher than those taught using the traditional approach at the 0.05 significance level of statistic. 2) The satisfaction of grade 12 students towards the advance organizer model was at high level.