แนวทางการบริหารวิชาการที่ส่งเสริมการจัดการเรียนรู้เชิงรุก โรงเรียนอ้อมน้อยโสณชนูปถัมภ์
คำสำคัญ:
การบริหารวิชาการ, การเรียนรู้เชิงรุกบทคัดย่อ
การวิจัยครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อ 1) ศึกษาสภาพปัจจุบันและสภาพที่พึงประสงค์ของการบริหารวิชาการที่ส่งเสริมการจัดการเรียนรู้เชิงรุกของโรงเรียนอ้อมน้อยโสภณชนูปถัมภ์ 2) เสนอแนวทางการบริหารวิชาการที่ส่งเสริมการจัดการเรียนรู้เชิงรุกของโรงเรียนอ้อมน้อยโสภณชนูปถัมภ์ประชากรในครั้งนี้ คือ ครูโรงเรียนอ้อมน้อยโสภณชนูปถัมภ์ จำนวน 80 คน และกลุ่มผู้ให้ข้อมูลหลัก คือ ผู้บริหารและครู จำนวน 7 คน ผู้วิจัยเลือกแบบเจาะจง และมีผู้ตอบแบบสอบถาม 66 คน คิดเป็นร้อยละ 82.50 เครื่องมือที่ใช้ในการเก็บรวบรวมข้อมูล ได้แก่ แบบสอบถาม โดยค่าความเชื่อมั่นของแบบสอบถามทั้งฉบับเท่ากับ .96 และแบบสัมภาษณ์แบบกึ่งโครงสร้าง (Semi-Structured Interview) สถิติที่ใช้ ได้แก่ ค่าร้อยละ ค่าเฉลี่ย ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน ค่าดัชนีลำดับความต้องการจำเป็น PNI Modified และ การวิเคราะห์เนื้อหา
ผลการวิจัย พบว่า
1) สภาพปัจจุบันของการบริหารวิชาการที่ส่งเสริมการจัดการเรียนรู้เชิงรุกของโรงเรียนอ้อมน้อยโสภณชนูปถัมภ์ ในภาพรวมอยู่ในระดับมาก ส่วนสภาพพึงประสงค์อยู่ในระดับมากที่สุด จากการลำดับความต้องการจำเป็น ด้านการจัดการเรียนการสอนในสถานศึกษามีค่าดัชนีความต้องการจำเป็นสูงที่สุด
2) แนวทางการบริหารวิชาการที่ส่งเสริมการจัดการเรียนรู้เชิงรุกของโรงเรียนอ้อมน้อยโสภณชนูปถัมภ์ มีทั้งสิ้น 4 แนวทาง ได้แก่ (1) การพัฒนาหลักสูตรของสถานศึกษา พบว่า มีการปรับปรุงหลักสูตรให้เหมาะสมกับผู้เรียนและสังคม และ มีการจัดทำหลักสูตรให้ผู้เรียนเกิดสมรรถนะ (2) การจัดการเรียนการสอนในสถานศึกษา พบว่า การส่งเสริมการใช้เทคนิค วิธีการ กิจกรรมการจัดการเรียนรู้ที่หลากหลาย และการให้ผู้เรียนได้ลงมือปฏิบัติจริง (3) การวัดผล ประเมินผลและดำเนินการเทียบโอนผลการเรียน พบว่า ส่งเสริมการวัดผล ประเมินผลที่หลากหลาย ตามสภาพจริง และจัดทำสารสนเทศเพื่อเป็นข้อมูลในการพัฒนาผู้เรียน (4) การส่งเสริมให้ผู้สอนพัฒนาสื่อและใช้เทคโนโลยี พบว่า ส่งเสริมการพัฒนาครู และส่งเสริมการพัฒนาและใช้สื่อเทคโนโลยี
##plugins.generic.usageStats.downloads##
เอกสารอ้างอิง
Chanta, P. (2020). The Guidelines for Academic Administration of the School Administrators in Nakhon
Nayok Primary Educational Service Area Office [Master of Education Program in Educational Administration, Rajamangala University of Technology Thanyaburi]. [Translate]
Dechakup, P. and Yindeesuk, P . ( 2020). Active Learning Through Collaborative PLC for Development.
Bangkok: Chula Press. [Translate]
Likert, R. (1976). Management Styles and the Human Component. New York: AMACOM. [Translate]
Ministry of Education. (2022). Education Policy of Ministry of Education Fiscal year 2022.
https://www.moe.go.th/360policy-and-focus-moe-2023/. [Translate]
Office of the Basic Education Commission. (2019). Guidelines for Supervision to Develop and Promote
Active learning according to the Policy of Reducing Study Time and Increasing Learning time. https://www.academic.obec.go.th/: [Translate]
Office of the Education Council. (2016). The National education plan B.E. (2017-2036). First edition.
Banngkok: Prikwarn Graphic Co., Ltd. [Translate]
Paenkaew, J., Sungkhachat B., Damsangsawat N., and Namjaroen T. (2009). Authentic Assessment. Burapha University Journal of Education, 30(1), 22 – 33. [Translate]
Wahachat, R. (2012). Academic Administration of Basic Education Institutions. Songkhla: Namsilp
Atvertise Company Ltd. [Translate]
]
ดาวน์โหลด
เผยแพร่แล้ว
ฉบับ
บท
การอนุญาต
ลิขสิทธิ์ (c) 2024 วารสารศาสตร์การศึกษาและการพัฒนามนุษย์

This work is licensed under a Creative Commons Attribution-NonCommercial-NoDerivatives 4.0 International License.


